ฉันเดินทางไปจังหวัดอยุธยากรุงเก่าของเราแต่ก่อน คิดถึงเนื้อเพลงที่ครูเคยสอนตอนเด็กๆ ยังจำเนื้อร้องได้ถึงตอนจบ แต่ยังคงร้องเพี้ยนเหมือนเดิม กาลเวลาไม่ได้ทำให้ฉันร้องเพลงดีขึ้น แต่ทำให้ฉันเรียนรู้ว่า ควรไปคาราโอเกะให้บ่อยขึ้น...จะฮาไปไหน เข้าเรื่องดีกว่า ทริปนี้เราสามคนแม่ลูกทำตัวเป็นกาฝากขอติดสอยห้อยตามพ่อของลูกที่ต้องไปทำงานเป็นคอมเม้นเตเตอร์ของการประกวดวงดนตรีซึ่งเป็นไฮไลท์หนึ่งของงานประจำจังหวัด แต่คนส่วนใหญ่ของจังหวัดไปงานโต๊ะจีนที่จัดโดยกลุ่มคนเสื้อแดง...ฮาอีกแล้ว
วัดมหาธาตุเป็นสถานที่แรกที่ฉันพาลูกไปสัมผัส ลูกสาวคนโตดูสนใจจริงจัง ขอเดินไปทางนั้นทางนี้ ในขณะที่ฉันต้อง "อุ้ม" ลูกสาวคนเล็กที่ตัวไม่เล็กเดินดูภายในบริเวณโบราณสถานแห่งนี้เพราะกลัวพระไม่มีเศียรจนทำให้ไม่กล้าเดิน ทำให้ความพยายามที่จะดื่มด่ำกับร่องรอยประวัติศาสตร์ของฉันต้องปิดฉากลงในเวลาอันสั้น มองกลับไปยังจุดที่จากมา ก็ต้องถอนใจเฮือก เกือบหนึ่งกิโลเมตรที่ต้องแบกก้อนเนื้อน้ำหนักยี่สิบสองกิโลกรัม ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เป็นบทเรียนราคาแพง รู้สึกเจ็บใจตัวเอง....ทำไมไม่เอารถเข็นเด็กติดมาด้วย!!!! รถตุ๊กๆหน้าวัดคือคำตอบสุดท้าย
ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันต้องแบกลูกสาวคนเล็กเพราะไม่มีรถเข็น ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลืมคิดไปว่าจริงๆแล้วเขาไม่ใช่เด็กโตที่จะเดินเป็นกิโลๆได้ เขาโตแต่ตัวเท่านั้น แต่ทำไมไม่รู้จักจำ...มนุษย์ไม่เคยเรียนรู้จากความผิดพลาด...ท่าจะเป็นความจริง นึกเปรียบเทียบกับสภาพผุพังของเหล่ากำแพง โบสถ์ วิหาร ปราสาทภายในบริเวณเมืองเก่าเหล่านี้ ก็เป็นความจริงเช่นเดียวกัน เมืองทองของเหล่าพี่น้องเผ่าพงศ์ไทยต้องพังพินาศด้วยเปลวไฟจากสงคราม จนเกินจะบูรณะซ่อมแซม สร้างใหม่ง่ายกว่า จึงได้เกิดกรุงธนบุรี และกรุงรัตนโกสินทร์สืบเนื่องต่อมา....ทุกคนเจ็บปวดกับการสูญเสีย และเข็ดขยาดกับสงคราม ไม่มีใครอยากเห็นสงคราม แต่ทำไมดูเหมือนว่าจะยังคงมีคนอยากให้เกิดสงคราม หรือไม่ก็กำลังทำสงครามกันอยู่แต่เป็นสงครามที่ไม่ได้มีรูปแบบเป็นกองทัพที่ประหัตประหารกันด้วยอาวุธ แต่เป็นสงครามที่มาในรูปแบบต่างๆทั้งชนิดเหนือเมฆที่เราคาดไม่ถึงและชนิดบ้านๆที่เด็กสามขวบก็ยังดูออก รู้ทั้งรู้ว่าสงครามมีแต่สร้างความสูญเสีย แต่ยังจะทำให้มันเกิด หรือมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เสพย์ติดความเจ็บปวด เป็นมาโซคิสม์และซาดิสม์ในคราวเดียวกัน
วันนี้มาแนวค่อนข้างจริงจังเพราะเป็นประเด็นที่ฉันไม่เข้าใจ แต่ยังอยากจะเข้าใจ แต่อาจจะไม่ยอมรับ เพราะฉันเชื่อเสมอว่า ชีวิตคนมันสั้นนัก จักสร้างความดีและประโยชน์ให้แก่กันไม่ดีกว่าหรือ จะเอาอะไรใส่ตัวไปนักหนา เกิดมาอย่างไร เมื่อถึงคราวตายก็ไปเท่านั้น ดูในรูปที่ถ่ายมาเป็นตัวอย่าง เหลือเพียงซากปรักหักพังผ่านกาลเวลา ไม่เห็นมีทรราชย์คนใดอยู่ยั้งยืนยงมาสั่งการใดๆในปี 2011 สักคน
ป.ล. ตอนนี้ขาข้างหนึ่งได้ยื่นเข้าไปอยู่ในทัณฑสถานหญิงเรียบร้อยแล้ว....ขอข้าวผัดและอเมริกาโน่ร้อนนะ...ฮามั้ยเนี่ย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น