วันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2554

เพื่อนเก่าที่ยังไม่มีใครแก่

วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน 2554 เวลา 18.00 น.เป็นวันนัดรวมตัวพบปะเด็กอักษรฯ รุ่น 59 ที่ร้านเวณิสวานิช ท่าน้ำมหาราช....ฉันไปร่วมงานด้วยอาการลิงโลดลั๊ลลา สายไปนิดแต่ต่อติดได้ในเวลาไม่นาน

ขำดี เมื่อมองย้อนเวลาไปสมัยเป็นสาวอักษร ฉันเป็นนิสิตที่ไม่ค่อยตั้งใจเรียนนัก ยกเว้นวิชาของศิลปการละครซึ่งฉันเลือกเป็นวิชาเอก และส่วนใหญ่ก็จะมีเรียนในช่วงบ่าย  เพื่อนๆจึงไม่ค่อยพบเห็นหน้าค่าตาของฉันในช่วงเช้า รู้สึกว่าตัวเองเป็นนิสิตภาคค่ำยังไงยังงั้น  เลยทำให้ไม่ค่อยได้ร่วมกิจกรรมของคณะมากนัก เพราะฉันเอาเวลาส่วนใหญ่ไปทำงานและแรดอยู่ข้างนอก...แต่ฉันยังจำได้ดีช่วงที่เพิ่งเริ่มต้นชีวิตสาวอักษรในปีหนึ่งและปีสอง....ได้ทำ ได้ฮา ได้เสียน้ำตาร่วมกับเพื่อนๆทุกคน

จนทุกคนเรียนจบกันออกมา ต่างเดินทางกันไปตามทางของตัวเอง ผ่านจุดเปลี่ยนมากมาย จากวัยไฟวัยฝันสู่วัยตกตะกอน และมีโอกาสได้มาติดต่อกันอีกครั้ง ผ่าน social network ซึ่งเราหลายคนยกให้เป็นผู้มีพระคุณ เพราะมันทำให้เราหากันจนเจอ

ทุกคนต่างมีหน้าที่การงาน มีตำแหน่งแห่งที่ที่ชัดเจน มั่นคงทั้งทางสังคมและทางใจกันในระดับหนึ่ง ดูมีความเชื่อมั่นและมั่นใจกับชีวิตมากขึ้น นี่คงเป็นฝีมือของคำว่าประสบการณ์  แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนไม่เคยเปลี่ยนคือ รอยยิ้มเมื่อแรกพบกันในปี พ.ศ 2534  มาจนถึงวันนี้ 2554 มันยังเหมือนเดิม

และน่าแปลกเพลงที่ฉันเลือกร้องในคืนนี้ ก็เป็นเพลง...เหนื่อยมั้ยดาว...ที่เพื่อนฉันยังจำได้ว่า ฉันเคยร้องเมื่อตอนอยู่ปี 1....เราแลกเปลี่ยน พูดคุย อัพเดทชีวิตกันพอหอปากหอมคอ ที่เหลือปล่อยให้เป็นเวลาของการ แซว..กัด...จิก...หยอก...หัวเราะกันท้องคัดท้องแข็ง ส่วนฉันคงเป็นตับแข็ง เพราะซดไวน์โฮกๆๆ เหมือนไปตายอดตายอยากจากที่ไหนมา  แต่ฉันมักเป็นเช่นนี้เสมอ ในเวลาแห่งความสุขฉันชอบสุขแบบกึ่มๆ มันจะทำให้ฉันสุขมากขึ้น (ห้ามลอกเลียนแบบ ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำ) และทุกคนก็รู้สึกไมต่างกับฉัน  ต่างใช้ช่วงเวลานี้บันทึกเสี้ยวหนึ่งของชีวิตเอาไว้อย่างตั้งใจ เมื่อกลับไปมันคือหนึ่งในความทรงจำดีๆที่รอคอยให้เกิดขึ้นอีกหลังจากที่ต้องห่างกันไปอีกวาระ   ข้อดีของการจากกันมันคืออย่างนี้นี่เอง....มันทำให้เรามีความหวังและรอคอยที่จะได้เจอกันอีกในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเหมือนในคืนนี้
จนกว่าจะพบกันใหม่ อักษร 59 เรารักทุกคน

ไม่มีความคิดเห็น: